รอง ผบ.ตร.สั่งรวบเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นแก๊งปล้นไม้พะยูงของกลาง
รอง ผบ.ตร.สั่งรวบเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นแก๊งปล้นไม้พะยูงของกลาง
จากกรณีเมื่อวันที่ 1 พ.ค.2566 ได้มีคนร้ายกว่า 30 คนพร้อมอาวุธครบมือ บุกเข้ามาปล้นไม้พะยูงของกลางซึ่งถูกเก็บรักษาไว้ที่ศาลาเกษตร ผากิ่วลม ต.บ้านเป้า อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ จากนั้นคนร้ายได้ใช้อาวุธบังคับควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ไว้ และนำรถเครนมาขนย้ายไม้พะยูงของกลางไป รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1.9 ล้านบาท ต่อมา นายวิสัน กุดแถลง หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ ได้รับมอบอำนาจในการเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.หนองสูงใต้ ภ.จว.มุกดาหาร ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอไปแล้ว นั้น
กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการไห้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ให้เร่งดำเนินการสืบสวนจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุในคดีดังกล่าว เนื่องจากเป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากประชาชนและสื่อมวลชนอย่างมาก และเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ กลุ่มผู้ก่อเหตุจำนวนมากก่อเหตุโดยใช้อาวุธปืนเข้ามาข่มขู่เจ้าหน้าที่โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ชัชชัย วงค์สุนะ ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร ดำเนินการสืบสวนโดยเร่งด่วน โดยให้รวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด และดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุและขยายผลถึงตัวการเบื้องหลังทั้งหมด
จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดได้มีการวางแผนในการเข้าปล้นเอาไม้พะยูงของกลางที่ถูกเก็บไว้ในที่เกิดเหตุ โดยมีนายทุนชาวจีนอยู่เบื้องหลัง และได้มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รัฐรายหนึ่ง ทำให้ทราบว่ามีไม้พะยูงดังกล่าวเก็บรักษาอยู่ จากนั้นได้มีการเรียกรับผลประโยชน์เป็นเงินจำนวน 200,000 บาท และจ่ายเงินจ้างทีมผู้ก่อเหตุที่จะเข้าไปปล้นเอาไม้พะยูงออกมาอีกจำนวน 400,000 บาท จากนั้นจึงได้ให้ทีมผู้ก่อเหตุขับรถเข้าไปพร้อมอาวุธปืนจำนวนมากกว่า 10 คนเข้าไปก่อเหตุดังกล่าว โดยมีการเตรียมทั้งรถเครนและรถบรรทุกเข้าไปขนย้ายไม้พะยูง จากนั้นได้นำไม้พะยูงไปเก็บรักษาที่โกดังในพื้นที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เพื่อแปรรูปไม้ดังกล่าว และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านต่อไป
จากข้อมูลดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.4, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองสูงใต้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.มุกดาหาร ได้ร่วมกันสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลจังหวัดมุกดาหาร ที่ร่วมกันก่อเหตุในคดีนี้จำนวน 15 ราย โดยกล่าวหาว่า “ ร่วมกันลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือยอมจำนนต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือผู้อื่น โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป ” ต่อมาได้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวได้ จำนวน 11 ราย คือ
1.เสี่ยหลอม อายุ 50 ปี ชาวจังหวัดยโสธร
2.นายโจ อายุ 51 ปี ชาวจังหวัดอุบลราชธานี
3.ตาแต๊ก อายุ 53 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร
4.ยายดา อายุ 55 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร
5.นายรงค์ อายุ 55 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด
6.นายแมน อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด
7.นายตูมตาม อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด
8.นายเป๊ก อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด
9.นายโน้ต อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด
10.นายตูบ อายุ 48 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด
11.นายเบิ้ม อายุ 41 ปี ชาวจังหวัดยโสธร
ยังคงหลบหนี จำนวน 4 ราย คือ
1.นายหยวน (นายทุนสัญชาติจีน)
2.นายสายคำ (นายทุนสัญชาติลาว)
3.นายโอได (ล่ามสัญชาติลาว)
4.นายกำจัด (นายหน้าหาไม้ตามออเดอร์)
ซึ่งจะได้สืบสวนติดตามจับกุมต่อไป นอกจากนี้จึงได้ร่วมกันตรวจยึดรถยนต์ของกลางที่ใช้ในการกระทำผิด จำนวน 4 คัน ดังนี้
1.รถเครน (รถเฮี้ยบ) ที่ใช้ในการขนไม้พะยูงของกลาง จำนวน 1 คัน
2.รถยนต์บรรทุกสิบล้อ ที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายไม้ของกลาง จำนวน 1 คัน
3.รถยนต์กระบะ ที่ใช้ในการบรรทุกคนงานขนไม้ไปยังที่เกิดเหตุ จำนวน 1 คัน
4.รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ที่ใช้ในการก่อเหตุ จำนวน 1 คัน
นอกจากนี้ผลการสืบสวนสอบสวนขยายผลยังพบพยานหลักฐานเพิ่มเติมว่าคดีดังกล่าวมีพยานหลักฐานเพียงพอที่เชื่อว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดดังกล่าว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดมุกดาหารเพื่อจับกุมเจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวน 1 ราย โดยกล่าวหาว่า“ เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริต ยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตฯ ” เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อนึ่ง
คดีนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลังฐานเพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษไม่ว่าจะเป็นผู้ร่วมกระทำผิดเองหรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อไม่ไห้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้ที่คิดจะกระทำผิดต่อทรัพย์สินของทางราชการโดยเฉพาะในสถานที่ราชการและเป็นการปราบปรามกลุ่มกระบวนการลักลอบนำไม้พะยูงออกไปจากประเทศ ต่อไป